ชุมชนกุฎีจีน มรดกแห่งวัฒนธรรมกับคำกล่าวที่ว่า “4 ความเชื่อ 3 ศาสนา 6 ชุมชน ความต่างที่ไม่แตกแยก ณ ชุมชนกุฎีจีน”
ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ประกอบไปด้วย 6 ชุมชนเล็กๆ ได้แก่ ชุมชนวัดกัลยาณ์ ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนวัดประยุรวงศ์ ชุมชนกุฏีขาว ชุมชนบุปผาราม และชุมชนโรงคราม
ในอดีต.. หลังจากพระเจ้าตากสินได้ทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแล้ว จึงได้ประกาศพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้มีการสร้างที่ดินให้แก่ประชาชน เพื่อสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย จึงมีการเข้ามาตั้งรกรากของแขกมุสลิมและฝรั่ง โดยเฉพาะฝรั่งโปรตุเกสที่ได้เข้ามาช่วยร่วมทำศึกสงครามกับกองทัพ จนเกิดเป็นชุมชนกุฎีจีนขึ้นมา
และชุมชนกุฎีจีนก็มีแหล่งมรดกวัฒนธรรมโบราณสถานชื่อดังมากมาย เช่น วัดกัลยาณมิตร (ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ซำปอกง ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร) วัดซางตาครู้ส หรือ โบสถ์ซางตาครู้ส (วัดกุฎีจีน) โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก โดยคำว่า “ซางตาครู้ส” ในภาษาโปรตุเกส เป็นคำที่มีความหมายว่า “กางเขนศักดิ์สิทธิ์” และศาลเจ้าเกียนอันเกง หรือ ศาลเจ้าแม่กวนอิม ศาลเจ้าที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น และมัสยิดบางหลวง (กุฎีขาว) มัสยิดแห่งเดียวในโลกที่เป็นทรงไทย โดยพื้นที่หน้าบันของมัสยิดจะประดับไปด้วยลายปูนปั้นที่ผสมกลมกลืนศิลปะ ไทย จีน และฝรั่ง มาผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างงดงามและลงตัว
และที่นี่เองก็ยังมีขนมเลี่องชื่ออย่าง “ขนมฝรั่งกุฎีจีน” ขนมโบราณที่มีอายุมาแล้วกว่า 200 ปี เป็นขนมที่ผสมผสานระหว่างสองชนชาติเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีต้นตำรับมาจากชาวโปรตุเกส ตัวขนมเป็นสูตรจากโปตุเกส และส่วนหน้าขนมนั้นเป็นสูตรของจีน
นอกเหนือจากสถานที่สำคัญทางศาสนสถานแล้ว ที่นี่เองก็ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวอันยอดเยี่ยมหลากหลาย ทั้งที่มีความเป็นอัตลักษณ์แห่งตัวตนของความเชื่อศรัทธาที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น พุทธ คริสต์ อิสลาม หรือลัทธิแบบจีน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นก็ไม่สามารถทำลายขีดกั้นขวางสัมพันธภาพของความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธ์ สำหรับที่นี่ได้ ทั้งชาวจีน ไทย อินเดีย และยุโรป ดังคำกล่าวที่ว่า “4 ความเชื่อ 3 ศาสนา 6 ชุมชน ความต่างที่ไม่แตกแยก ณ ชุมชนกุฎีจีน”
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ