อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร
หมู่เกาะชุมพร หรือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร แหล่งท่องเที่ยวทะเลที่มีชื่อดังของ จังหวัดชุมพร มีพื้นที่ทั้งหมด 198,125 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดชุมพรทั้งหมด 5 อำเภอได้แก่ อำเภอทุ่งตะโก อำเภอปะทิว อำเภอเมืองชุมพร อำเภอสวี และ อำเภอหลังสวน
ภูมิประเทศภายในอุทยานฯ จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ส่วน คือ ชายฝั่ง อ่าวและปากคลอง เกาะ และ ภูเขา ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งธรรมชาติที่ค่อนข้างหลากหลาย และอุดมสมบูรณ์ค่ะ นอกจากนี้ตามเกาะต่างๆ ของหมู่เกาะชุมพรเองก็ยังมีแนวปะการังที่สวยงามรวมถึงเป็นแหล่งทำรังของนกนางแอ่นด้วย จะมีเกาะอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกัน
1. หมู่เกาะง่าม เป็นหมู่เกาะที่ได้รับความนิยมจากเหล่านักดำน้ำทั้งหลาย เนื่องจากมีจุดดำน้ำลึกหลายจุดที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เกาะหลักง่าม และหินหลักงาม ถึงแม้ทะเลแถบนี้จะไม่ค่อยมีปะการังอ่อนสีสด และน้ำจะไม่ใสเท่าแถบอันดามัน แต่ก็มีปะการังสีดำ ซึ่งหาชมได้ยากในจุดดำน้ำอื่นๆ ในหมู่เกาะชุมพรเกาะง่ามใหญ่ จะเป็นหน้าผาสูงชัน ไม่มีหาด แต่ถ้าหากไปดำน้ำที่จุดนี้ ก็จะเจอกับดอกไม้ทะเลอย่างหนาแน่น และดอกไม้ทะเลส่วนใหญ่ก็ยังเป็นบ้านของปลาการ์ตูนอินเดียนแดงอีกด้วยนอกจากนี้ก็ยังมี หินหลักง่าม ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิด ทั้งปลากระเบนตัวใหญ่ และฉลามวาฬ และ เกาะหลักง่าม ซึ่งเป็นจุดดำน้ำลึกที่สวยที่สุดของหมู่เกาะนี้ อยู่ห่างจากเกาะง่ามน้อยประมาณ 3 – 4 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีกองหินโผล่พ้นน้ำขึ้นมา จุดดำน้ำมีความลึกอยู่ที่ประมาณ 30 – 70 ฟุต และที่สำคัญที่จุดนี้ยังมีปะการังหลากสีหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลไทย คนที่ชอบดำน้ำ หรืออยากจะชมความสวยของทะเลไทยไม่ควรพลาด
2. เกาะมาตรา หนึ่งในเกาะยอดนิยมของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ที่มีหาดทรายขาวสลับกับโขดหินเรียงราย รอบเกาะรายล้อมไปด้วยแนวปะการังน้ำตื้นที่อุดมสมบูรณ์ และสวยงามมากๆ ครอบคลุมพื้นที่ 0.489 ตารางกิโลเมตร และมีระดับความลึกประมาณ 8 เมตร น้ำทะเลใสสะอาด ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งดำน้ำ ดูปะการังยอดฮิตแห่งหนึ่งของนักดำน้ำ
3. เกาะหลักแรด เป็นเกาะหินปูนที่มีลักษณะคล้ายกับแรด และไม่มีชายหาด รอบด้านเป็นทั้งจุดดำน้ำตื้น และดำน้ำลึกที่เต็มไปด้วยปะการัง ดอกไม้ทะเล และสัตว์ทะเลนานาชนิด จุดเด่นของเกาะนี้อยู่ที่ ปะการังครก หรือ กลุ่มฟองน้ำครก ที่จะต้องดำดิ่งลึกลงไปประมาณ 8 – 12 เมตร จึงจะได้สัมผัสกับความสวยงาม แต่ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ค่ะ เพราะนอกจากปะการังที่ว่าแล้ว เราก็ยังจะได้พบกับ ปลิงทะเลสร้อยไข่มุก เกาะอยู่บริเวณรอบๆ และหากมีความโชคดีก็อาจจะได้เห็นงูทะเลอีกด้วย เรียกได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจจนต้องลงไปสัมผัสกันสักครั้ง
4. เกาะลังกาจิว เป็นเกาะสัมปทานรังนกขนาดปานกลางที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสเพื่อทอดพระเนตรการเก็บรังนกบนเกาะนี้ และได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ของพระองค์ไว้ที่ผนังหินปาสถ้ำ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ค่ะ
5. เกาะมะพร้าว เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ห่างจาก หาดทรายรี เพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น เนื่องจากเป็นเกาะสัมปทานรังนก จึงต้องขออนุญาตทางอุทยานฯ ก่อนเข้าไปท่องเที่ยวค่ะ บนเกาะมีหาดทรายสีขาวนวล ยาวประมาณ 100 เมตร และภูมิทัศน์ที่สวยงาม จึงเหมาะกับการไปพาย SUP ชมความงดงามของเกาะ รวมถึงดำน้ำตื้นชมแนวปะการังด้วย
6. เกาะละวะ อีกหนึ่งเกาะหินปูนขนาดใหญ่ที่มองผิวเผินในเวลาน้ำขึ้น อาจจะเหมือนไม่มีชายหาด แต่เมื่อถึงเวลาที่น้ำลงก็เห็นชายหาดเล็กๆ ค่อยๆ เผยความสวยงามของเนื้อทรายสีขาวอมน้ำตาลอ่อน เป็นแนวยาวประมาณ 50 เมตร ออกมาให้ได้ชมกัน และถึงแม้จะมีชายหาดแคบๆ ที่อาจจะไม่สามารถลงไปสัมผัสได้ แต่บริเวณรอบๆ เกาะก็อุดสมบูรณ์ไปด้วยปะการังน้ำตื้น ทั้งดอกไม้ทะเลสีขาว ปะการังแผ่นใบไม้ และอาจจะได้พบกับ ทากกระต่าย หรือ ทากเปลือยขาวจุดดำตัวเล็กๆ ในบริเวณนี้ได้ด้วย
7. เกาะทะลุ ชมธรรมชาติสวยงามแปลกตาที่ เกาะทะลุ เกาะหินปูนที่มีโพรงถ้ำขนาดใหญ่ คร่อมอยู่บนผิวน้ำ ทำให้เราสามารถว่ายน้ำลอดไปมาได้อย่างเพลิดเพลิน อีกทั้งยังเป็น จุดดำน้ำลึก ที่จะพบกับแนวปะการังขนาดเล็ก และดอกไม้ทะเลต่างๆ ที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่น เป็นแหล่งชุมนุมของปลาใหญ่ อย่างสลิดทะเล ปลากล้วย และบางครั้งอาจจะพบกับฉลาดหูดำอีกด้วย
8. เกาะกะโหลก เป็นเกาะหินปูนก้อนใหญ่ที่ไม่มีหาดทราย แต่เป็นจุดดำน้ำดูปะการังที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของ หมู่เกาะชุมพร เราจะมีโอกาสได้ชมปะการังเขากวาง ดงดอกไม้ทะเล ฝูงปลาเล็กใหญ่ ทั้งปลาหางเหลือง ปลาเก๋า และถ้าไปถูกจังหวะก็อาจจะมีโอกาสได้พบกับ ฝูงปลาโทงเทงร่ม ตัวโตด้วย ไปดำน้ำที่เกาะอื่นๆ มาแล้ว ก็อย่าลืมแวะไปทักทายฝูงปลาที่เกาะกะโหลกกันด้วยนะคะ