0
จำนวน : 0
รวมเป็นเงิน : 0.00 ฿
รายการที่เลือกชำระเงิน

เข้าสู่ระบบ

สมัครสมาชิก

เมื่อคุณสมัครสมาชิก คุณสามารถตรวจสอบรายการจอง อัพโหลดสลิป และเช็คสถานะการชำระเงินของคุณผ่านหน้าสมาชิกได้ตลอดเวลา รวมไปถึงการเขียนรีวิวการเดินทางของคุณได้อีกด้วย
ชื่อผู้ใช้*
รหัสผ่าน*
ยืนยันรหัสผ่าน*
ชื่อ*
นามสกุล*
วันเกิด*
อีเมล์*
โทรศัพท์*
ประเทศ*
* การสมัครสมาชิกเป็นการยอมรับ เงื่อนไขและข้อตกลง และข้อควรปฏิบัติในการเดินทาง
Please agree to all the terms and conditions before proceeding to the next step

คุณมีบัญชีสมาชิก?

เข้าสู่ระบบ
0
จำนวน : 0
รวมเป็นเงิน : 0.00 ฿
รายการที่เลือกชำระเงิน

พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

วัดประจำรัชกาลที่ ๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย คือ “วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร” หรือ “วัดแจ้ง” เมื่อครั้งที่พระองค์ท่านดำรงตำแหน่งเป็นวังหน้าในรัชกาลที่ ๑ ที่ประทับของท่านจะอยู่ที่พระราชวังเดิม ฝั่งธนบุรี และวัดที่อยู่ใกล้กับ พระราชวังเดิมที่สุดก็คือวัดอรุณราชวราราม พระองค์ท่านจึงได้โปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณฯ และยังได้ทรงลงมือปั้นหุ่นพระพักตร์ ‘พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก’ พระประธานในพระอุโบสถ ด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เองอีกด้วย และเมื่อพระองค์ท่านทรงเสด็จสวรรคต พระบรมอัฐิของพระองค์ ก็ถูกนำมาประดิษฐานไว้ที่พระอุโบสถวัดอรุณราชวรารามแห่งนี้

วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่พบหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างวัดในสมัยโบราณ ตามหลักฐานเท่าที่ปรากฏมีเพียงว่า เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีมาก่อนรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พุทธศักราช ๒๑๙๙-๒๒๓๑) เพราะมีแผนที่เมืองธนบุรีซึ่งเรือเอก เดอ ฟอร์บัง (Claude de Forbin) กับนายช่าง เดอ ลามาร์ (de Lamare) ชาวฝรั่งเศส ทำขึ้นไว้เป็นหลักฐานในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังมีพระอุโบสถและพระวิหารของเก่าที่ตั้งอยู่ ณ บริเวณหน้าพระปรางค์ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือช่างสมัยกรุงศรีอยุธยา

มูลเหตุที่เรียกชื่อวัดนี้แต่เดิมว่า “วัดมะกอก” นั้น ตามทางสันนิษฐานเข้าใจว่า คงจะเรียกคล้อยตามชื่อตำบลที่ตั้งวัด ซึ่งสมัยนั้นมีชื่อว่า ‘ตำบลบางมะกอก’ (เมื่อนำมาเรียกรวมกับคำว่า ‘วัด’ ในตอนแรกๆ คงเรียกว่า ‘วัดบางมะกอก’ ภายหลังเสียงหดลงคงเรียกสั้นๆ ว่า ‘วัดมะกอก’) ตามคติเรียกชื่อวัดของไทยสมัยโบราณ เพราะชื่อวัดที่แท้จริงมักจะไม่มี จึงเรียกชื่อวัดตามชื่อตำบลที่ตั้ง ต่อมาเมื่อได้มีการสร้างวัดขึ้นใหม่อีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกันนี้ แต่อยู่ลึกเข้าไปในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกชื่อวัดที่สร้างใหม่ ว่า “วัดมะกอกใน” (ในปัจจุบันคือ วัดนวลนรดิศวรวิหาร) แล้วเลยเรียก ‘วัดมะกอก’ เดิมซึ่งอยู่ตอนปากคลองบางกอกใหญ่ ว่า “วัดมะกอกนอก” เพื่อให้ทราบว่าเป็นคนละวัด

ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๓๑๐ เมื่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงมีพระราชประสงค์จะย้ายราชธานี มาตั้ง ณ กรุงธนบุรี จึงเสด็จกรีฑาทัพล่องลงมาทางชลมารคถึงหน้า ‘วัดมะกอกนอก’ แห่งนี้เมื่อเวลารุ่งอรุณพอดี จึงทรงเปลี่ยนชื่อวัดมะกอกนอก เป็น ‘วัดแจ้ง’ เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงการได้เสด็จมาถึงวัดนี้เมื่อเวลาอรุณรุ่ง

เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้ย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยา มาตั้ง ณ กรุงธนบุรี ในปี พ.ศ.๒๓๑๑ และได้ทรงสร้างพระราชวังใหม่ มีการขยายเขตพระราชฐาน เป็นเหตุให้วัดแจ้งตกเข้ามาอยู่กลางพระราชวัง จึงโปรดไม่ให้มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษา การที่เอาวัดแจ้งเป็นวัดภายในพระราชวังนั้น คงจะทรงถือแบบอย่างพระราชวังในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่มีวัดพระศรีสรรเพชญ์อยู่ในพระราชวัง การปฏิสังขรณ์วัดเท่าที่ปรากฏอยู่ตามหลักฐานในพระราชพงศาวดาร ก็คือ ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ และพระวิหารหลังเก่าที่อยู่หน้าพระปรางค์ กับโปรดให้สร้างกำแพงพระราชวังโอบล้อมวัด เพื่อให้สมกับที่เป็นวัดภายในพระราชวัง แต่ไม่ปรากฏรายการว่า ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์หรือก่อสร้างสิ่งใดขึ้นบ้าง

ในสมัยกรุงธนบุรีเป็นราชธานี ถือกันว่าวัดแจ้งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง เนื่องจากเป็นวัดที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตและพระบาง ซึ่ง สมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑) ไปตีเมืองเวียงจันทน์ได้ในปีกุน เอกศก จุลศักราช ๑๑๔๑ (พ.ศ.๒๓๒๒) แล้วอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ ๒ องค์คือ พระแก้วมรกตและพระบาง ลงมากรุงธนบุรีด้วย และมีการสมโภชเป็นเวลา ๒ เดือน ๑๒ วัน จนกระทั่งถึงวันวิสาขปุณณมี วันเพ็ญกลางเดือน ๖ ปีชวด โทศก จุลศักราช ๑๑๔๒ (พุทธศักราช ๒๓๒๓) โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบางขึ้นประดิษฐานไว้ในมณฑป ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถเก่าและพระวิหารเก่า หน้าพระปรางค์ อยู่ในระยะกึ่งกลางพอดี มีการจัดงานสมโภชใหญ่ ๗ คืน ๗ วันด้วยกัน

เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ได้โปรดให้สร้างพระนครใหม่ข้างฝั่งตะวันออก ของแม่น้ำเจ้าพระยา และรื้อกำแพงพระราชวังกรุงธนบุรีออก ด้วยเหตุนี้วัดแจ้งจึงไม่ได้อยู่ในเขตพระราชวังอีกต่อไป พระองค์จึงโปรดให้วัดแจ้งเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาอีกครั้งหนึ่ง โดยนิมนต์ พระโพธิวงศาจารย์ จากวัดบางหญ้าใหญ่ (วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ) มาครองวัด พร้อมทั้ง พระศรีสมโพธิและพระภิกษุสงฆ์จำนวนหนึ่งมาเป็นพระอันดับ

นอกจากนั้นพระองค์ทรงมอบหมายให้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร (รัชกาลที่ ๒) เป็นผู้ดำเนินการปฏิสังขรณ์วัดแจ้ง แต่การปฏิสังขรณ์คงสำเร็จเพียงกุฏิสงฆ์ ส่วนพระอุโบสถและพระวิหาร ยังไม่ทันแล้วเสร็จ ก็พอดีสิ้นรัชกาลที่ ๑ ในปี พ.ศ.๒๓๕๒ เสียก่อน (เมื่อปี พ.ศ.๒๓๒๗ พระแก้วมรกตได้ย้ายมาประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ส่วนพระบางนั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้โปรดพระราชทานคืนไปยังนครเวียงจันทร์ ประเทศลาว)

ต่อมาในรัชกาล พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ พระองค์ทรงดำเนินการปฏิสังขรณ์ต่อจนเสร็จ มีการจัดงานสมโภชใหญ่ถึง ๗ วัน ๗ คืน แล้วโปรดพระราชทานพระนามวัดว่า ‘วัดอรุณราชธาราม’

ส่วนยอดสุดขององค์พระปรางค์ใหญ่ เป็น ‘ยอดนภศูล’ ครอบด้วยมงกุฎปิดทองอีกชั้นหนึ่ง พระปรางค์วัดอรุณฯ มีความสูงจากฐานถึงยอด 81.85 เมตร ทำให้กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในกรุงเทพมาอย่างช้านาน รวมถึงเป็นพระปรางค์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย

ในสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดอรุณฯ ใหม่หมดทั้งวัด พร้อมทั้งโปรด ให้ลงมือก่อสร้างพระปรางค์ตามแบบที่ทรงคิดขึ้นด้วย ซึ่งการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์สิ่งต่างๆ ภายในวัดอรุณฯ นี้สำเร็จลงแล้ว แต่ยังไม่ทันมีงานฉลองก็สิ้นรัชกาลที่ ๓ ในปี พ.ศ.๒๓๙๔

เมื่อ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ในปี พ.ศ.๒๓๙๔ พระองค์ได้โปรดให้สร้างและปฏิสังขรณ์สิ่งต่างๆ ในวัดอรุณฯ เพิ่มเติมอีกหลายอย่าง อีกทั้งยังได้อัญเชิญ พระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มาบรรจุไว้ที่ พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถ ที่พระองค์ทรงพระราชทานนามว่า ‘พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก’ และเมื่อได้ทรงปฏิสังขรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้พระราชทานนามวัดเสียใหม่ว่า ‘วัดอรุณราชวราราม’ ดังที่เรียกกันมาจนถึงปัจจุบัน

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

รายการทัวร์ที่เกี่ยวข้อง

วัดอรุณราชวราราม

ลำดับโดย

ล่องเรือดินเนอร์

ล่องเรือสำราญ ดินเนอร์ แม่น้ำเจ้าพระยา – เรือไวท์ ออร์คิด ริเวอร์ ครูซส์ [WHITE ORCHID RIVER CRUISE]

2 ชั่วโมง
ดื่มด่ำความโรแมนติกยามค่ำคืนแห่งสายน้ำเจ้าพระยา สัมผัสแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพมหานคร  ล่องเรือชมความงามระดับโลกของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมโบราณสถานวัดวาอารามที่อยู่สองฝากฝั่งแม่น้ำ   เคล้าด้วยเสียงด […]
เริ่มต้น1,500850
0
รายละเอียด
เมอริเดียนครูซ

ล่องเรือดินเนอร์แม่น้ำเจ้าพระยา เรือเมอริเดียนครูซ [Meridian Cruise]

2 ชั่วโมง
ขอเรียนเชิญคุณมาสัมผัสล่องเรือดินเนอร์ แม่น้ำเจ้าพระยา ดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืนของสายน้ำเจ้าพระยา สัมผัสวิวทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม ประติมากรรมโบราณ กับสองฟากฝั่งจุดแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพมหานคร เช่น วั […]
เริ่มต้น1,800890
0
รายละเอียด
เจ้าพระยาครุยส์

ล่องเรือสำราญ ดินเนอร์ แม่น้ำเจ้าพระยา – เรือเจ้าพระยาครุยส์ [ CHAOPHRAYA CRUISE ]

2 ชั่วโมง
ดื่มด่ำความโรแมนติกยามค่ำคืนแห่งสายน้ำเจ้าพระยา สัมผัสแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพมหานคร  ล่องเรือชมความงามระดับโลกของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมโบราณสถานวัดวาอารามที่อยู่สองฝากฝั่งแม่น้ำ   เคล้าด้วยเสียงด […]
เริ่มต้น1,7001,200
0
รายละเอียด

แสดงความคิดเห็น

ต้องการความช่วยเหลือ?

พนักงานของเราพร้อมให้ข้อมูล และคำแนะนำในการทำการจอง ชำระเงิน ตรวจสอบรายการจอง แจ้งชำระเงิน และเปลี่ยนข้อมูลการเดินทางของคุณเสมอ

083-5961888

booking.travelxpress@gmail.com

GDPR

  • เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก “การตั้งค่าคุกกี้” อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว

หน้าหลัก
ค้นหา
ปลายทาง
ทัวร์
สมาชิก
ติดต่อ