ราคา
เริ่มต้น1,5001,200
จองเลย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ชื่อ-สกุล *
โทร*
อีเมล์ของคุณ (ถ้ามี)
วันเดินทาง *
จำนวนผู้เดินทาง *
ข้อความสอบถาม *
* ฉันยอมรับ เงื่อนไขการจอง และ ข้อปฏิบัติในการเดินทาง.
Please agree to all the terms and conditions before proceeding to the next step
รายการทัวร์นี้ไม่สามารถจองผ่านเว็บไซต์ได้ในขณะนี้ โปรดติดต่อจองกับ จนท. ของเรา

จองเลย

เก็บในรายการโปรด

เพิ่มรายการโปรด ต้องมีบัญชีผู้ใช้

4986

add friend

add friend

ล่องเรือสำราญ ดินเนอร์ แม่น้ำเจ้าพระยา – เรือเจ้าพระยาปริ๊นเซส [ CHAO PHRAYA PRINCESS ]

0
  • ท่าเรือริเวอร์ซิตี้
  • บริการรถรับส่ง
  • 2 ชั่วโมง
  • ไกด์ไทย - อังกฤษ
  • จองล่วงหน้า 24 ชม.
  • จองขั้นต่ำ 1 คน

โปรแกรมล่องเรือดินเนอร์อันดับหนึ่งของสายน้ำเจ้าพระยา!!!

ขอต้อนรับสู่การเดินทางเพื่อการพักผ่อนและน่าจดจำตลอด 2 ชั่วโมง กับเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซส สัมผัสกับความหรูหราด้วยอาหารมื้อค่ำที่แสนจะโรแมนติกกับคนรู้ใจที่ไม่มีวันลืมเลือน

บรรยากาศอันแสนโรแมนติค ตื่นตาตื่นใจจะเริ่มขี้น เพียงคุณได้ย่างก้าวสู่เรือเจ้าพระยาปริ๊นเซส คุณจะสัมผัสได้ถึงความหรูหรา ยิ่งใหญ่ตระการตาของตัวเรือ พร้อมที่นั่งอันหรูหราถึง 500 ที่นั่ง บรรยากาศบนเรือตกแต่งด้วยศิลปกรรม ผสมผสาน สไตล์ไทยประยุกต์ ทั้งยังได้แบ่งสัดส่วนเพื่อความรู้สึกที่แต่งต่างไว้เป็น 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นห้องปรับอากาศ ส่วนชั้นบน เป็นแบบเปิดโล่ง สำหรับท่านที่ชื่นชอบลมธรรมชาติ เรือเจ้าพระยาปริ้นเซส ได้ออกแบบให้มีดาดฟ้าที่สูงเพื่อความรู้สึกโปร่งสบาย 

ลิ้มรสกับอาหารไทยและอาหารนานาชาติแบบบุฟเฟ่ต์ ภายใต้แสงเทียน เพลิดเพลินกับดนตรีแซกโซโฟนและนักร้องฟิลิปินส์ ในสไตล์ Pop Jazz พร้อมชมบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน พร้อมสถาปัตยกรรมอันมีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ที่สวยงามล้ำเลิศ ที่จะประดับประดาแสงไฟไว้อย่างสวยงาม อาทิเช่น พระบรมมหาราชวัง และวัดอรุณราชวราราม พระราชวังบางขุนพรหม วัดกัลยาณมิตร สะพานพระราม 8 ฯลฯ

โดยโปรแกรมนี้จะเริ่มต้นที่

ป้อมวิชัยประสิทธ์  หรือ ป้อมวิไชยเยนทร์  ตั้งชื่อตาม คอนสแตนติน ฟอลคอน หรือ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ ซึ่งเป็นผู้ทูลแก่สมเด็จพระนารายณ์ให้สร้างป้อม ทั้งยังเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างเองอีกด้วย โดยมอบหมายให้ มองซิเออร์ เดอร์ ลา มาร์  นายช่างชาวฝรั่งเศสผู้มีบทบาทในการก่อสร้างป้อมปราการหลายแห่งสมัยสมเด็จพระนารายณ์เป็นผู้ออกแบบ ถูกสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2223 ในชื่อ ป้อมบางกอก หรือ ป้อมวิไชยเยนทร์ หากจำกันได้ในเรื่อง บุพเพสันนิวาส ป้อมแห่งนี้ถือว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก  สร้างขึ้นเพื่อป้องกันข้าศึกรุกรานทางทะเล  ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสถาปนา กรุงธนบุรี เป็นราชธานี ได้ทรงสร้างพระราชวังขึ้นบริเวณป้อมฝั่งตะวันตก พร้อมกับปรับปรุงป้อมและพระราชทานนามใหม่ว่า “ป้อมวิไชยประสิทธิ์”

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3  เมื่อราวพ.ศ. ๒๓๖๘   เป็นหนึ่งในวัดที่มีความงดงามซึ่งผสานศิลปกรรมไทย-จีน ไว้ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามทรงคุณค่าที่สะท้อนวิถีชีวิตในสมัยรัชกาลที่ 3  และเรื่องราวแห่งพุทธประวัติ  นอกจากความโดดเด่นในการออกแบบแล้วภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อโต หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก ( รัชกาลที่ 4 ทรงพระราชทานนามไว้ )  เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดในกรุงเทพฯ ( องค์พระมีสีเหลืองทองอร่ามงดงาม ) หลวงพ่อโตเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงของชาวธนบุรี โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง  มีคติความเชื่อโด่งดังในเรื่องการขอพรให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย และมีมิตรไมตรีที่ดี

พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ เรียกสั้นๆว่า พระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย (หากสังเกตุภาพตราสัญลักษณ์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะเห็นเป็นรูปพระปรางค์ ) ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบสถานที่ทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงที่สุดจากทัวร์โอเปีย  

วัดอรุณราชวรารามเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๒  แต่เดิมเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดมะกอก (เรียกตามชื่อตำบลที่ตั้ง) เล่ากันว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมีพระราชประสงค์จะย้ายราชธานีใหม่มายังกรุงธนบุรี พระองค์จึงเสด็จทางชลมารค ล่องตามแม่น้ำเจ้าพระยาเรื่อยมาจนถึงหน้าวัดมะกอกเมื่อรุ่งแจ้งพอดี ครานั้นจึงมีพระราชดำริว่า นับเป็นมงคลมหาฤกษ์นัก ครั้นแล้วจึงเสด็จขึ้นจากเรือพระที่นั่งไปถวายสักการะพระเจดีย์ (พระปรางค์องค์เก่า) ครั้นต่อมาโปรดฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัด แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า วัดแจ้งเพื่อระลึกถึงมงคลมหาฤกษ์ครั้งนั้น

วัดแจ้งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาตามลำดับ จนกระทั่งในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้รับพระราชทานนามใหม่ตามนัยความหมายเดิมว่า “วัดอรุณราชวราราม”  ตัวพระปรางค์ปัจจุบันนี้มิใช่พระปรางค์เดิม ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่มีความสูงเพียง 16 เมตร โดยพระปรางค์ปัจจุบันนี้ถูกบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาและสร้างขึ้นแทน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในปี พ.ศ. 2363 แต่ก็ได้แค่รื้อพระปรางค์องค์เดิม และขุดดินวางราก ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ได้ทรงมีพระราชดำริให้ดำเนินการสร้างต่อ โดยพระองค์เสด็จมาวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2385 จนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2394 ใช้เวลารวมกว่า 9 ปี  พระปรางค์วัดอรุณฯ ได้รับการบูรณะเสมอมา จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทำการบูรณะพระปรางค์ครั้งใหญ่ ซึ่งก็คือแบบที่เห็นในปัจจุบัน

พระบรมมหาราชวัง หรือ พระราชวังพระนคร  เป็นศูนย์กลางการปกครองของประเทศและเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์สมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2325  ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ทรงย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีมายังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาและโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังหลวงขึ้นเพื่อเป็นการก่อสร้างพระราชวังหลวงเริ่มขึ้นพร้อมกับการสร้างพระนครเมื่อ พ.ศ. 2325   

พระที่นั่งสันติชัยปราการ    พระที่นั่งสันติชัยปราการสร้างขึ้นตอนเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 โดยสร้างตอนที่ปรับปรุงภูมิทัศน์ของป้อมพระสุเมรุโดยพระที่นั่งองค์นี้ใช้เป็นสถานทีประกอบงานพระราชพิธีทางกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคพระที่นั่งองค์นี้มีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติมาประดับไว้ พร้อมกับท่ารับเสด็จขึ้นลงเรือพระที่นั่ง เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นที่จัดพระราชประเพณีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันพระที่นั่งองค์นี้อยู่ในการดูแลของกรมศิลปากร

สะพานพระราม 8  เป็นหนึ่งในสะพานที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรมในแบบไทยที่สวยงามที่สุด  เปิดให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 เวลา 7:00 น.  สะพานนี้เกิดจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งที่เสด็จทรงเยี่ยมพระอาการประชวรของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระองค์ทอดพระเนตรเห็นถึงปัญหาการจราจรของสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 โปรดเกล้าฯ ให้กรุงเทพมหานครก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อบรรเทาการจราจรบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ารองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ  และยังทรงสร้างเพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร กรุงเทพมหานครจึงได้อัญเชิญ “พระราชลัญจกร” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์ มาเป็นต้นแบบในการออกแบบทางสถาปัตยกรรม 

การออกแบบกำหนดทิศทางของสะพานและพระบรมราชานุสรณ์ ได้ออกแบบให้สัมพันธ์กับวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ในวันที่ 21 และ 22 ธันวาคม ของทุกปี โดยในเวลาเช้ามืดดวงอาทิตย์โผล่เด่นพ้นขอบฟ้าขึ้นตรงเส้นกลางถนนบนสะพานด้านทิศตะวันออก และขึ้นตรงหน้าพระบรมราชานุสรณ์ เสมือนเป็นมาตรที่บ่งบอกทิศทางการโคจรเป็นวงรี วกกลับของดวงอาทิตย์เมื่อเทียบในระนาบ 2 มิติตามวิถีคิดในอดีตกาล  ปลายยอดเสาสูงของตัวสะพานจะมีจุดชมทิวทัศน์ ซึ่งมีโครงสร้างโลหะกรุกระจก ลักษณะคล้ายดอกบัว สูงจากพื้นดินถึง 165 เมตร หรือสูงเท่าตึก 60 ชั้น พื้นที่ 35 ตารางเมตร จุคนได้ครั้งละเกือบ 50 คน 

 

 

 

 

สัมผัสความโรแมนติกของทัศนียภาพสองฝากฝั่งเจ้าพระยาที่คุณจะต้องตกหลุมรัก

เวลาออกเดินทาง

19.00 น. – 19.30 น.

ออกเดินทางจาก

ท่าเรือสี่พระยา

(ดูแผนที่)

ไฮไลท์ของทัวร์
ดื่มด่ำความโรแมนติกยามค่ำคืนแห่งสายน้ำเจ้าพระยา สัมผัสแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพมหานคร  ล่องเรือชมความงามระดับโลกของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมโบราณสถานวัดวาอารามที่อยู่สองฝากฝั่งแม่น้ำ   เคล้าด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะ ในสไตล์ Pop Jazz ที่จะทำให้บรรกาศการดินเนอร์ของคุณและคนพิเศษเป็นความประทับใจไม่รู้ลืม 

 

  • อิ่มอร่อยกับอาหารแบบบุฟเฟต์นานาชาติ พร้อมคลอเคล้าไปด้วยเสียงเพลงอันไพเราะ ในสไตล์ Pop Jazz
  • ชื่นชมกับทัศนียภาพอันสวยงามและโรแมนติกของสองฝากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
  • ล่องเรือชมแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพมหานครบนเรือสำราญที่สามารถมองเห็นได้รอบ 360 องศา
ตารางเวลาเดินทาง
19.30 น.
เช็คอิน ที่ริเวอร์ซิตี้ เคาท์เตอร์ เจ้าพระยาปริ๊นเซส ( ท่าเรือสี่พระยา )

ลงทะเบียน ที่ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา (ถนนเจริญกรุง ซอย 30) บริเวณท่าเรือที่ 1 (Pier 1) พนักงานของเราพร้อมต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านด้วยความเป็นมิตร

19.45 น.
ออกเดินทางจากท่าเรือริเวอร์ ซิตี้

บริการต้อนรับทุกท่านด้วยเครื่องดื่ม ( WELCOME DRINK ) ฟรุ๊ตพั้นซ์ และดรายแสน็คที่เราได้จัดเตรียมไว้ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน จิบเครื่องดื่มเย็นฉ่ำ เคล้าเสียงเป่าแซกโซโฟนบรรเลงจากนักดนตรีชาวฟิลิปปินส์ ในหลากหลายบทเพลงที่ท่านคุ้นเคย และพาท่านล่องเรือชมบรรยากาศสองฝากฝั่งแม่น้ำอันแสนโรแมนติก อาทิเช่น ป้อมวิชัยประสิทธ์ วัดกัลยาณมิตร พระปรางค์วัดอรุณฯ พระบรมมหาราชวัง (วัดพระแก้ว ) พระที่นั่งสันติชัยปราการ สะพานพระรามแปด ฯลฯ

20.00 น.
ร่วมรับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ

เวลาสำหรับความอร่อยกับอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติเลิศรส ภายใต้ความโรแมนติคของแสงเทียนและเสียงเพลงสากล อาหารพร้อมบริการ ทั้งอาหารยุโรป อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น รวมทั้งสลัด ขนม และผลไม้ให้คุณเลือกอิ่มอร่อยได้ตลอดการเดินทาง หากต้องการเครื่องดื่มนอกเหนือจากที่บริการสามารถสั่งเพิ่มเติมได้เองโดยชำระค่าบริการบนเรือ ( กรณีนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้าหรือไวน์ ขึ้นไปบนเรือ ทางเรือจะมีค่าบริการเปิดขวดเริ่มต้นต่อขวด 500 บาท )

21.45 น.
กลับถึงท่าเรือ

ส่งทุกท่านถึงท่าเรือ ริเวอร์ ซิตี้ และที่พักโรงแรมโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ ( สำหรับท่านที่เลือกบริการรับส่งที่พัก โรงแรม )

โปรดทำความเข้าใจ : โปรแกรมทัวร์สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ คลื่นลมทะเล และปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง มัคคุเทศก์ หรือผู้กระทำการแทนบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการตัดสินใจปรับโปรแกรมตามความเหมาะสม ทั้งนี้เราจะคำนึงถึงความปลอดภัย และผลประโยชน์ของผู้เดินทางโดยรวมเป็นสำคัญ

ราคาพิเศษ
ราคาผู้ใหญ่
1,200
ราคาเด็ก 3-11 ปี
950
ราคาเด็ก 0-2 ปี
ฟรี

* ราคาที่แสดงในตารางนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนไขการจองและชำระเงิน ส่วนลดอาจได้รับการเสนอเพิ่มเติมเมื่อมีจำนวนผู้จองตามที่โปรโมชั่นได้ถูกกำหนดไว้ จำนวนเงินที่ต้องชำระมัดจำอาจถูกเสนอขึ้นเมื่อผู้เดินทางทำการจองและชำระเงินภายในระยะที่กำหนด

ราคารวม

  • ค่าบริการเรือ
  • อาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ , ผลไม้ และเครื่องดื่ม
  • การแสดงดนตรีสดและโชว์ต่างๆ
  • ประกันภัยนักท่องเที่ยว

ราคาไม่รวม

  • ค่าอาหารนอกเหนือจากที่ระบุไว้
  • ค่าธรรมเนียมและภาษีอื่นใด
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าบริการรถรับส่ง ของฝาก ขนม

ข้อแนะนำและสิ่งที่ควรเตรียมไป

  • งบใช้จ่ายส่วนตัว
  • เสื้อหรือผ้าคลุม อุปกรณ์ถ่ายภาพ อุปกรณ์กันน้ำ
  • ท่านสามารถจอดรถได้ที่ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ฟรี 2 ชั่วโมงแรก โดยนำบัตรจิดรถมาประทับตราได้ที่เคาท์เตอร์เรือไวท์ออคิดริเวอร์ครูซส์
  • ในกรณีต้องการรถบริการรับส่งจะมีค่าบริการตามระยะทาง สามารถแจ้งได้พร้อมการจองบัตรกับทางเจ้าหน้าที่
  • กรณีสำรองที่นั่งมากกว่า 2 ท่าน สามารถสอบถามราคาพิเศษได้ที่ โทร 083-5961888 หรือ 02-057-8781
แผนที่ท่องเที่ยว
จุดออกทัวร์
สถานที่ท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวอีก 1 คน กำลังดูรายการนี้

GDPR

  • เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก “การตั้งค่าคุกกี้” อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว

หน้าหลัก
ปลายทาง
ทัวร์
สมาชิก
ค้นหา